ครั่ง เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่สามารถผลิตสินค้าออกให้แก่ประเทศไทยได้ไม่แพ้สินค้าอื่นบางชนิด // อาหารเสริมคอลลาเจน
ผลผลิตจากครั่งสามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง
เมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้ว
เราสามารถฟังเสียงเพลงได้จากผลผลิตจากครั่ง เพราะมีคนนำเอาครั่งมาผลิตแผ่นเสียง
ปัจจุบันแผ่นเสียงจากวัสดุชนิดอื่นประเภทพลาสติกซึ่งมีราคาถูกกว่าผลิตจากครั่ง
และตกไม่แตก || อาหารเสริมคอลลาเจน
อาหารเสริมคอลลาเจน :: ความมันบนผิวของเครื่องเฟอร์นิเจอร์
โต๊ะ ตู้ ชุดรับแขก ที่มีความสวยงามทั้งหลาย ก็เป็นผลผลิตจากครั่ง
ยาสมุนไพร ที่ใช้รักษาโรคโลหิตจาก
ก็เป็นผลผลิตจากครั่ง // อาหารเสริมคอลลาเจน
สีย้อมผ้า สีใส่อาหาร ขนม บางอย่าง
ก็เป็นผลผลิตจากครั่ง
แมลงครั่ง
เป็นแมงที่มีขนาดเล็กมากแทบจะมองไม่เห็นไม่ชัดด้วยตาเปล่า ไไไไ อาหารเสริมคอลลาเจน
ครั่งชอบอาศัยอยู่บนต้นไม้หลายชนิด
เช่น ต้นก้ามปู ต้นไทร ต้นพุทรา ต้นทองกวาว ต้นรัง ต้นตะคร้อ เป็นต้น
ตัวแมลงครั่ง มีสีแดง รังของแมลงครั่ง
มีลักษณะคล้ายายางแข็งๆ หุ้มกิ่งไม้ เพื่อช่วยป้องกันภัยต่างๆ ที่จะมารบกวน adver อาหารเสริมคอลลาเจน ^.^ อาหารเสริมคอลลาเจน
การเลี้ยงครั่ง
นับเป็นอาชีพอย่างหนึ่งเหมือนอาชีพการเลี้ยงไหม เพื่อ เก็บรังไหมไปทำเส้นด้าย
ทอผ้าไหม เลี้ยงมดแดง เพื่อเก็บไข่ไปขายเพื่อทำอาหาร เลี้ยงผึ้งเอาน้ำผึ้ง (((อาหารเสริมคอลลลาเจน)))
แต่การเลี้ยงครั่ง เพื่อเก็บรังไปขาย
เพื่อทำประโยชน์ได้มากกว่า การเลี้ยงไหม เลี้ยงมดแดง หรือเลี้ยงผึ้ง
ในประเทศไทย
มีการเลี้ยงครั่งกันมากในจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีหนึ่งๆ
ประเทศไทยส่งครั่งเป็นสินค้าออกได้เงินเข้าประเทศจะนวนมากเหมือนกัน
มนุษย์เรารู้จักใช้ประโยชน์จากครั่งมานานแล้ว
มีหลังฐานปรากฏว่า ชายจีนรู้จักใช้สีแดงจากสีของครั่งย้อมผ้าไหม
และหนังฟอกมานานกว่า 4000
ปีมาแล้ว
เมื่อประมาณ 2000 ปีที่ผ่านมา ชาวอินเดีย รุ้จักนำครั่งมาใช้แทนยาสมุนไพร
โดยเข้าใจว่าครั่งเป็นยาช่วยเพิ่มเม็ดโลหิตสีแดงในร่างกายของคนเรา เนื่องมาจากครั่งมีสีแดงเหมือนเม็ดโลหิต
ต่อมาเมื่อประมาน 100 กว่าปีมานี้เอง ได้มีผู้นำเอารังของครั่งมาแยกเอาแซลแลคออกมาใช้ในกิจการอุตสาหกรรมได้
โดยนำมาใช้เป็นน้ำมัน ทาไม้เพื่อให้มีผิวมัน เกิดความสวยงาม
และมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น เช่น ทาพื้น ทาเครื่องเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องเรือน
ต่อมาแซลแลคนี้ได้มีการเผยแพร่ ให้เป็นที่นิยมใช้ไปทั่วโลก
แซลแลคที่ทำสำเร็จแล้ว ก่อนผสมกับแอลกอฮอล์มีลักษณะเป็นแผ่น
บางใส มีสีต่างๆ กันตามสีของรังครั่ง เช่นสีเหลืองเข้ม เหลืองอ่อน น้ำตาลเข้ม
น้ำตาลอ่อน แซลแลคจะละลายได้ง่ายใน แอลกอฮอล์
ครั่งที่เลี้ยงกันมากในประเทศไทย
มีคุณภาพดี ไม่ดีแตกต่างกันตามสภาพของต้นไม่ที่ใช้เลี้ยง ครั่งชนิดดีที่สุดคือครั่งที่เลี้ยงจากต้นตะคร้อหรือต้นสะคร้อ
ตะคร้อหรือสะคร้อเป็นไม่ยืนต้นชนิดหนึ่ง
ต้นสูงใหญ่ มีผลคล้ายผลมะไฟ มีรสเปรี้ยว
ครั่งจะมีคุณภาพดีหรือไม่ดี
จะขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ ทีปะปนอยู่ในรังของครั่งด้วย เช่น ตัวแมลงชนิดอื่นทีแฝงอาศัยอยู่ในรังครั่งและเศษไม้หรือเศษเปลือกไม้ที่ติดมากับรังครั่งด้วย
ครั่งชนิดดีหรือคุณภาพดี
เมื่อผลิตเป็นแซลแลคแล้วจะมีสีเหลืองส้ม ราคาสูงกว่าสีอื่นๆ
และเป็นสีที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากเมื่อทาผิวไม้แล้ว
ทำให้เกิดความสวยงามและมีความมันแวววาวกว่าสีอื่น ทั้งยังรักษาเนื้อไม้ได้ดีกว่าอีกด้วย adver อาหารเสริมคอลลาเจน
ต้นไม้ที่นิยมใช้เลี้ยงครั่งได้แก่ จามจุรี
ตะคร้อ สะแก เป็นต้น adver อาหารเสริมคอลลาเจน
คนไทยรู้จักเพราะเลี้ยงครั่ง
รู้จักใช้ประโยชน์จากครั่งและเป็นสินค้ามานานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
แต่ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์จากสีแดงของตัวแมลงครั่ง มาใช้เป็น สีย้อมผ้า
ใช้เป็นสีผสมขนม และใช้เป็นยาสมุนไพรรักษา โรคโลหิตจาง เหมือนชาวอินเดีย
การเลี้ยงครั่งในสมัยก่อน ไม่ค่อยแพร่หลายากันมากนัก
เนื่องจากยังไม่เป็นสินค้าออก
แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกันมากทางภาคเหนือตั้งจังหวัดสุโขทัยขึ้นไป ตาก น่าน ลำพูน
ลำปาง เชียงใหม่ พะเยา จนถึงจังหวัดเชียงราย ซึ่งจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย
ภาคตัวออกเฉียงเหนือตอนใต้ มีจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีจังหวัด สกลนคร
ขอนแก่น เลย เป็นต้น ส่วนภาคอื่นๆ มีเลี้ยงกันประปราย
ไม่ค่อยเป็นทีนิยมเลี้ยงกันนักเพราะภูมิอากาศไม่อำนวย
ครั่งที่ประเทศไทยส่งเป็นสินค้าออกไปขายต่างประเทศ
มีอยู่ 3 ชนิด คือ
1 ครั่งดิบ
หมายถึงครั่งที่แกะรังครั่งออกจากกิ่งไม้มีลักษณะเป็นก้อนเล็กบ้างใหญ่บ้าง
มีทั้งตัวแมลงครั่ง ยางครั่งเศษไม้ เศษเปลือกไม้ และแมลงอื่นๆ ปนอยู่ด้วย
2 ครั้งเม็ด หมายถึงครั่งดิบที่นำมาแปรสภาพโดยการทุบหรือบดให้
แตก เป็นก้อนเล็กๆ แล้วแยกสิ่งที่เจือปนออก จึงนำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้ว
นำไปผึ่งแดดจนแห้ง ครั่งเม็ดจะมีสีเหลือใสหรือแดงคล้ำ
3 ครั่งสำเร็จ
หมายถึงครั่งที่ผลิตแล้วนำไปใช้ประโยชน์ทันทีมีหลายอย่างเช่น
ผลิตเป็นแซลแลค น้ำมันชักเงาหรือวานิช แลคเกอร์ เป็นต้น
ครั่งที่เป็นสินค้าออก ส่วนมากเป็นครั่งเม็ด
ส่วนใหญ่จะส่งไปขาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมัน อังกฤษ ส่วนในทวีปเอเชีย
ก็ส่งไปขายประเทศญี่ปุ่น
ดักแด้ออกมาประมาณ 10 วัน แมลงครั่งจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแยกให้
เห็นชัดเจน เป็นตัวผู้และตัวเมีย และจะเจริญเติบโตต่อไปอีกประมาณ 20 วัน คืนเมื่อแมลงครั่งมีอายุประมาณ 2 เดือน ตัวผู้จะแยกออกเป็น 2 ชนิดคือชนิดมีปีก กับชนิดไม่มีปีก
และจะเจริญเติบโตเต็มที่เหมือนแมลงทั่วๆ ไปส่วนตัวเมีย เมื่ออายุประมาน 2 เดือน
ก็จะได้รับการผสมพันธุ์จากตัวผู้หลังจากนั้นรูปร่างจะขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเกือบกลม
ภายในตะเต็มไปด้วยน้ำ สีแดง และเมื่อมีอายุต่อไปจนครบ 4 เดือนครึ่ง ก็จะวางไข่
ปีหนึ่งๆ แมลงครั่งจะวางไข่ 2 ครั้งๆ ละประมาณ 200-500 ฟอง
แมลงครั่งตัวผู้หลังจากผสมพันธุ์กับแมลงครั่งตัวเมียและจะตายไป
ภายใน 2-3 วันต่อมา
ขณะแมลงครั่งมีชีวิตอยู่บนต้นไม้หรือกิ่งไม้จะเจริญเติบโตได้ด้วย
การดูดกิน น้ำเลี้ยงของต้นไม้เป็นอาหาร และจะสร้างรังด้วยวิธีผลิตยางครั่งออกมาหุ้มตัว
คล้ายเกราะป้องกันอันตรายไปในตัวด้วย
ยางครั่งที่แมลงครั่งขับออกมาจากต่อมภายในร่างกายจะมีลักษณะเหนียว
มีสีคล้ายสีทอง ยางนี้เมื่อถูกอากาศภายนอกจะแข็งตัว สีจะเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาล แมลงครั่งจะขับยางครั่งออกมาทับถมทุกวันจนหนาเป็นรังต่อๆกันไปรอบๆ
กิ่งไม้
ลักษณะรังของแมลงครั่งตัวผู้กับตัวเมียจะแตกต่างกัน
คือ รังของแมลงครั่งตัวผู้จะมีลักษณะ ยาวรี คล้ายรูปบุหรี่ซิการ์ ส่วนรังของแมลงครั่งตัวเมียจะมีลักษณะกลมๆ
ป้อมๆ
รังครั่งตัวเมีย |
รังครั่งตัวผู้ |
ในการเลี้ยงครั่ง เพื่อการอุตสาหกรรม
หรือเพื่อการค้าทั่วไปผู้เลี้ยงครั่งจะต้องระวัง ศัตรูที่คอยมาทำลายหรือมาทำให้ครั่งมีคุณภาพต่ำลง
ศัตรูของแมลงครั่ง ได้แก่แมลงชนิดอื่นที่ชอบมาแอบแฝงและทำลายรังครั่ง
มี 2 พวก คือ
1 แมลงประเภทผีเสื้อราตรีหรือผีเสื้อกลางคืน
ที่เรียกว่าตัวห้ำ ที่คอยทำลายรังครั่งด้วยวิธีกัดกินรังครั่ง แมลงพวกนี้ชอบไข่ไว้ตามผิวของรังครั่ง
เมื่อไข่ฟักตัวเป็นหนอน มันจะเจาะไชเข้าไปกินตัวแมลงครั่งในรัง ทำความเสียหายมาก
2 แมลงประเภทตัวเล็กที่เรียกว่าตัวเบียน
แมลงพวกนี้ชอบเข้าไปไข่ ไว้ในรังครั่ง พอฟักออกเป็นตัว
ก็จะอาศัยเกราะกินอาหารในรังครั่ง ไม่ค่อยทำความเสียหายแก่แมลงครั่งมากนัก
นอกจากจะทำให้รังครั่งมีคุณภาพต่ำลง เพราะเข้าไปเป็นส่วนผสมที่ไม่มีประโยชน์